เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้เห็น แฮร์รี่ เคน ปล่อยพลังคอสโม่เปล่งปลั่ง กดแฮตทริคพาทีมชาติอังกฤษ หรือ สิงโตคำราม ไล่ถล่ม บัลแกเรีย 4-0 ในเวทีรอบคัดเลือก ยูโร 2020
40 นัด 25 ประตู! คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.63 ประตู ต่อ 1 เกม คงไม่ใช่สถิติที่กองหน้าดาดๆ ที่ไหนจะทำได้ หรือแม้กระทั่งกองหน้าดีๆ อย่าง ฟาวเลอร์ , แอนดี้ โคล , เจมี่ วาร์ดี้ , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ , เลส เฟอร์ดินานด์ , เอียน ไรท์ หรือ เอมิล เฮสกี้ คงได้แต่มองตาปริบๆ
ไม่ใช่ศูนย์หน้าชื่อดังของ พรีเมียร์ลีก ทุกคน จะเล่นได้ดียามรับใช้ทีมชาติกันทุกคน ซึ่งก็เป็นโชคดีของทัพ “สิงโตคำราม” ที่ เคน ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้
“เฮอร์ริเคน” คือศูนย์หน้าระดับ เวิลด์คลาสส์ ทั้งกับสโมสรและทีมชาติในยุคปัจจุบันอย่างเต็มตัว แต่ก่อนหน้านี้ ขุนพล “ทรี ไลอ้อนส์” ก็เคยมีดาวยิงจอมถล่มประตูเกรดเอบวกๆ ที่น่าสนใจมากมายเช่นกัน
เนื่องในโอกาสอันดีช่วงโปรแกรมทีมชาติ เราจะขอนำเสนอที่สุดของ 5 ดาวยิงทัพ “สิงโตคำราม” ในโลกฟุตบอลยุคโมเดิร์น! โดยจะขอไม่นับแข้งในยุคโบราณอย่าง เจฟฟ์ เฮิร์ส , จิมมี่ กรีฟ หรือ เควิน คีแกน เอาไว้บนหิ้งในฐานที่เข้าใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามกันได้เลยครับ
ส่อง 5 แข้งคนสำคัญของทัพ สิงโตคำราม ที่ต้องพูดถึงในยุคโมเดิร์น
- ไมเคิ่ล โอเว่น
อดีตศูนย์หน้าตีนจรวดของ ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นมาเป็นวันเดอร์คิดสร้างชื่อสนั่นวงการในศึก ฟร้องซ์ 98 โดยมีไฮไลท์เป็นการโซโล่ครึ่งสนามเข้าไปยิงใส่ อาร์เจนตินา พร้อมกับคว้ารางวัลแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ และปิดฉากชีวิตกับทีมชาติไว้ที่ 40 ประตู จาก 89 เกม ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 5 ตลอดกาลแห่งทัพ “สิงโตคำราม”
- อลัน เชียเรอร์
เป็นชื่อที่ไม่สามารถทิ้งไปไหนได้จริงๆ สำหรับดาวยิงเจ้าของฉายา “ฮอตชอต” ผู้ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนในชีวิตที่กระสุนด้านเลย โดยเคยผ่านการคว้ารางวัลดาวซัลโว ยูโร 96 และสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะปิดฉากเส้นทางการรับใช้ทัพ “ผู้ดี” หลังจบ ยูโร 2000 ทิ้งสถิติไว้ที่ 30 ประตู จาก 63 เกม
- เวย์น รูนี่ย์
อดีตหัวหอก “หมูสลาตัน” ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายนี้ คือเจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับ 1 แห่งทัพ “สิงโตคำราม” ที่ 53 ประตู จาก 120 เกม โดยเปิดตัวทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกใน ยูโร 2004 ที่เหมาไปคนเดียว 4 ลูก ก่อนที่สถิติจะดร็อปลงมาใน 5 ทัวร์นาเมนต์หลัง ที่เจ้าตัวยิงไปได้แค่ 3 ประตู ซึ่งได้เป็นรอยด่างพร้อยเล็กๆ เรื่องเดียวของ “หมูรูน”
- เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม
ทำไมศูนย์หน้าที่ยิงได้แค่ 11 ประตู ให้ทีมชาติอังกฤษ ถึงติดเข้ามาในโผนี้ ? นั่นก็เพราะ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ไม่ได้มีอาวุธอยู่แค่เรื่องการพังประตู แต่เขายังมีพรสวรรค์ของการเปิดช่องให้เพื่อน ความฉลาดในการถอยลงมาบัญชาเกม ซึ่งได้ทำให้เขากลายเป็นคู่ศูนย์หน้าที่ลงตัวที่สุดคนหนึ่งของ อลัน เชียเรอร์ ทั้งๆ ที่เพิ่งถูกเรียกติดธงเป็นครั้งแรกตอนอายุปาเข้าไป 27 ปีแล้ว
- แกรี่ ลินิเกอร์
“มิสเตอร์ไนซ์กาย” เป็นศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ที่ได้รับการยกย่องว่าอยู่ในระดับ เวิลด์คลาสส์ อย่างแท้จริง โดยเคยมีประสบการณ์ย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า มาแล้ว ขณะที่กับทัพ “สิงโต” ลินิเกอร์ ก็คว้ารางวัลดาวซัลโวในศึก เวิลด์ คัพ 1986 พร้อมกับยิง 4 ประตู ในศึก เวิลด์ คัพ 1990 ก่อนจะบอกลาทีมชาติในปี 1992 ทิ้งสถิติยิงประตูไว้ที่ 48 ประตู จาก 80 เกม ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 3 ของชาติตลอดกาล
ทัพ สิงโตคำราม ถือเป็นทีมชาติเมืองผู้ดีที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วมากมาย และยังเป็นทีมเต็งหนึ่งที่มีโอกาสคว้าแชมป์ได้มากกว่าทีมอื่นอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องอยู่ที่แข้งคนสำคัญที่ถูกเรียกใช้งานมารับใช้ชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละคนก็เป็นถึงระดับซุปตาร์ของวงการลูกหนังล้วนแต่มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่าง 5 ท่านที่กล่าวมานั้นเอง