แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบปัญหาเรื่องเกมรับ และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โปรเจ็คป้องกันแชมป์ในฤดูกาล 2019-20 ต้องพังทลายลงไป เสียแชมป์ให้กับลิเวอร์พูลไปในที่สุด และตอนนี้ ทีมตราเรือใบได้เริ่มขยับปรับแนวรับด้วยการดึงตัว แนวรับคนใหม่ นาธาน อาเก้ ชาวดัตช์มาจากบอร์นมัธ โดยใช้งบลงทุน 40 ล้านปอนด์
นาธาน อาเก้ แข้งคนใหม่ของแมนซิตี้ เข้ามาร่วมก๊วนในซีซั่นนี้
แนวรับวัย 25 ปีรายนี้ ได้รับความสนใจจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่มาช่วงเวลานึงแล้ว ก่อนหน้าที่จะย้ายไปอยู่กับบอร์นมัธ เพราะช่วงที่โดนเชลซี ปล่อยให้ยืมตัวไปทีมเดอะเชอร์รี่ ผลงานเริ่มเข้าตากรรมการ และส่อแววว่าจะกลายเป็นนักเตะดังได้ในอนาคต
อาเก้ เริ่มต้นเกมฟุตบอลกับเดน ฮาก ในระดับเยาวชน ก่อนจะไปฝึกฝีเท้าต่อกับ เฟเยนูร์ด จนอายุได้ 12 ปี ก็ย้ายสู่อะแคเดมี่ของ เขลซี ในปี 2011 ขณะนั้นอายุได้ 15 ปี และเริ่มสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุได้ 17 ปี เมื่อถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองของ ฆวน มาต้า ซึ่งตำแหน่งขณะนั้นคือรับผิดชอบในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ และเคยได้รับรางวัลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซีมาก่อนแล้ว
การที่ทีมเยาวชนจะสามารถโผล่มายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมเชลซี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำให้เขาต้องถูกส่งออกไปเผื่อหาประสบการณ์เพิ่มในฐานะนักเตะยืมตัวกับ เร้ดดิ้ง, วัตฟอร์ดและบอร์นมัธ ก่อนจะหวนคืนสู่เชลซีอีกครั้ง ซึ่งผลงานของเขากับบอร์นมัธ ต้องบอกว่า เป็นที่พูดถึงถึงความเก่งกาจบ้างแล้ว
แต่การหวนคืนสู่เชลซีก็ยังเข้าทำนองเดิมคือยังไม่ได้รับโอกาสสำหรับการเล่นเป็นตัวจริงมากนัก ทำให้ บอร์นมัธ ตัดสินใจยื่นข้อเสนอ 20 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทัพอย่างถาวร และสำเร็จ ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเขาได้กลายเป็นแนวรับตัวหลักของทีมตลอดมา
จุดเด่นของเขาในการลงสนามนั่นก็คือ มีเทคนิคการเล่นที่แพรวพราว รวมถึงมีรูปร่างสูงใหญ่ อ่านเกมได้ดี แม้ว่า บอร์นมัธ จะต้องตกชั้นไปในฤดูกาลนี้ แต่ภาพรวมของผลงานส่วนตัว อาเก้ ยังเป็นที่โดดเด่นเกินใคร แต่ไม่อาจจะต้านทานพลังรุกของคู่แข่งด้วยความสามารถของเขาเพียงคนเดียว
ความมั่นใจที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจเลือกเขาเข้ามาสู่ทีมนั้น เพราะสถิติการเล่นในฤดูกาลนี้ของเขา ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีเปอร์เซ็นต์การเข้าสกัดดีเยี่ยมถึง 68% ความโดดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เมื่อเคลียร์บอลด้วยลูกโหม่งได้ 78 ครั้ง และชนะการดวลลูกโหม่งกับคู่แข่งได้ถึง 62 ครั้ง ตลอดฤดูกาลแข่งขัน
ในส่วนของเกมรุก เขายังมีส่วนทำ 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ แม้ว่าจะเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค รวมถึงสถิติการจ่ายบอลอีก 1,210 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้ย้ายมาสู่ทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกได้
นอกจากนี้ เขายังได้เริ่มมีส่วนกับการลงสนามในทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่แล้ว เพราะผ่านการรับใช้ชาติมาแล้ว 13 นัด ทำได้ 2 ประตู โดยได้เล่นคู่กับเฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จากค่ายลิเวอร์พูล ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาติดทีมเยาวชนทุกชุดในนามทีมฮอลแลนด์มาแล้วเช่นกัน
แม้ว่าจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่งานที่เขายังต้องทำนั่นก็คือการแย่งตำแหน่ง เพื่อเป็นตัวหลักในทีมให้ได้ เพราะทีมเรือใบสีฟ้า ยังมีเซ็นเตอร์แบ็คอีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น จอห์น สโตน, นิโกล่า โอตาเมนดี้ ยืนค้ำคออยู่ ขณะที่ เอเมริค ลาป๊อร์กต์ นี่คือตัวหลักเบอร์หนึ่งของทีมอยู่แล้ว
หากอาเก้ สามารถพิสูจน์ตัวเองในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ เขากำลังจะก้าวขึ้นไปอีกระดับของการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คระดับโลก และที่สำคัญ เขาจะได้รับโอกาสจากเกมยุโรป ที่สามารถพาให้ฝีเท้าของเขา พัฒนาขึ้นไปได้อีกมาก โดยเฉพาะการมาอยู่ในมือของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า บางทีเขาอาจจะกลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสรและทีมชาติ ในภายภาคหน้า โดยไม่มีร่มเงาของเฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มาบดบังรัศมีของเขา ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่นี่ พร้อมรายงาน ข่าวฟุตบอล ต่างประเทศทั่วโลกได้รู้ทันเหตุการณ์ รับรองว่าจะได้ทราบข่าวก่อนใครแน่นอน